มะพร้าวแก้วแผ่นเชียงคานเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทของหวานสำหรับรับประทานเล่น เหมาะสำหรับทุกรุ่น ทุกวัย (ยกเว้นเด็กทารกแรกเกิด) เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝากทุกเทศกาลอย่างยิ่ง ซึ่งวัตถุดิบ (มะพร้าว) มีให้ผลิตตลอดทุกฤดูกาล โดยรับมาจากชาวสวนแถวจังหวัดเพรชบูรณ์ แล้วนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ของกลุ่มชาวบ้าน อ.เชียงคาน จ. เลย และปัจจุบันถือว่าเป็นสินค้าเอกลักษณ์ของ อ.เชียงคาน จ.เลย (มาเที่ยว อ.เชียงคาน ต้องนึกถึงมะพร้าวแก้ว หรือเห็นมะพร้าวแก้วทีไร ต้องนึกถึง อ.เชียงคาน ทุกที) และเป็นแหล่งผลิตหลักของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โดยสูตรการปรุงแต่งที่เนื้อนุ่ม รสหวานอ่อนๆ กลิ่นหอมชวนรับประทานนั้นมีที่นี่ที่เดียว จึงทำให้หาซื้อรับประทานได้ค่อนข้างยาก ส่วนมากจะเป็นการฝากเพื่อนๆ ที่มาเที่ยวจังหวัดเลยซื้อไปให้รับประทาน ซึ่งปัจจุบันมีการผลิตออกมา 2 แบบดังนี้
1. มะพร้าวแก้ว : ทำจากมะพร้าวทึนทึก (มะพร้าวพันธุ์พื้นบ้านที่เริ่มแก่) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทของหวานทานเล่นสิ่งแรกที่ทำมาจากมะพร้าวจาก อ.เชียงคาน จ.เลย ลักษณะจะเป็นแผ่นบางๆ ขนาดเล็ก เส้นยาว มีรสหวานอ่อนๆ ปัจจุบันมีการเพิ่มสีสันให้มีหลายหลากสีชวนน่ารับประทานยิ่งขึ้น สามารถเก็บไว้รับประทานนานถึงหนึ่งเดือน (ควรเก็บห่างไกลจากพื้นที่ที่มีความชื้น และควรปิดปากถุงให้สนิททุกครั้งเมื่อรัปประทานไม่หมด) ไม่มีส่วนผสมของสารกันเสีย (ผ่านการรับรองจากมาตรฐาน อย.)
2. มะพร้าวแก้วแผ่น : ทำจากมะพร้าวอ่อนพันธุ์พื้นบ้าน ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นนางเอกของผลิตภัณฑ์ประเภทของหวานทานเล่นจาก อ.เชียงคาน จ.เลย ลักษณะจะเป็นแผ่นหนา ขนาดใหญ่ เนื้อนุ่ม รสหวานอ่อนๆ กลิ่นหอมชวนรับประทาน รับประกันความพึงพอใจหลังการรับประทาน ทานชิ้นที่หนึ่ง ต้องมีชิ้นที่สองตามทุกครั้ง ปัจจุบันมีการเพิ่มสีสันให้มีหลายหลากสีชวนน่ารับประทานยิ่งขึ้น สามารถเก็บไว้รับประทานนานถึง 10 วัน (ควรเก็บห่างไกลจากพื้นที่ที่มีความชื้น และควรรับประทานให้หมดทุกครั้งที่แกะถุง หรือไม่ควรให้อากาศภายนอกเข้าไปภายในถุง) ไม่มีส่วนผสมของสารกันเสีย (ผ่านการรับรองจากมาตรฐาน อย.) สำหรับมะพร้าวแก้วแผ่นจะแบ่งออกเป็น 2 เกรดดังนี้
2.1 เกรด A : เป็นชิ้นที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีที่สุด (แผ่นหนา ขนาดใหญ่ เนื้อนุ่ม รสหวานอ่อนๆ กลิ่นหอม) เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝากอย่างยิ่ง
2.2 เกรด B : เป็นชิ้นที่ถูกคัดสรรออกมาจากเกรด A จะมีจำนวนค่อนข้างมาก (แผ่นหนา ขนาดเล็ก เนื้อแข็งนิดหน่อย รสหวานอ่อนๆ กลิ่นหอม) เหมาะสำหรับซื้อกินเอง ที่ไม่เน้นขนาด หรือเนื้อนุ่ม
คุณค่าทางโภชนาการ : เนื้อมะพร้าวสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด หรือนำมาคั้นเอาน้ำกะทิประกอบอาหารคาวหวานได้หลากหลายชนิด เนื้อมะพร้าวประกอบไปด้วยน้ำมันถึง 60–65% ในน้ำมันมีกรดไขมันหลายชนิด เนื้อมะพร้าวหั่นฝอยใส่น้ำเคี่ยวหรือตากแห้ง แล้วเคี่ยวจะได้น้ำมันมะพร้าว ส่วนน้ำมะพร้าวเป็นเครื่องดื่มที่มีคุณค่าทางอาหารสูง รสหวาน หอม ชุ่มคอ ชื่นใจ ในน้ำมะพร้าว ยังมีน้ำตาล โปรตีน โซเดียม แคลเซียม โปแตสเซียม
